14 กันยายน 2552

"พัทยา" เมืองที่ผู้คนใฝ่ฝัน??!!

"ครูจา"หรือนายศุภกร โนจา ผ.อ.ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาเด็กเมืองพัทยาจะประสานงานกับศูนย์พิทักษ์เด็กเยาวชนและสตรี ทีมงานครูข้างถนนค่อยดูแลเด็กเยาวชนและสตรีที่ถูกละเมิดสิทธิและคุกคามในด้านต่างๆบริเวรเมืองพัทยาและบริเวรใกล้เคียง

มุมหนึ่งของเมืองพัทยาที่อีกหลายๆคนไม่เคยรู้ หรือเพิกเฉยต่อมัน สาเหตุหลักของปัญหาพบว่ามาจากประชากรแฝง คนในพื้นที่เมืองพัทยามีไม่เท่าไหร่ส่วนมากจะเป็นคนจากทีอื่นเข้ามาทำงานเป็นแรงงาน ท่องเที่ยว หรือทำงานบริการด้านอื่นๆซะมากกว่า คนพื้นที่ใกล้เคียงจะชอบเข้ามาก่อเหตุในเมืองพัทยาเพราะยากต่อการจับกุม วันๆหนึ่งในเขตพื้นที่มีการก่อจรกรรมรถจักรยานยนต์วันๆหนึ่งไม่ต่ำกว่า9-10คัน คนต่างชาติที่พบมากในเมืองพัทยาส่วนใหญ่มาในรูปแบบของนักท่องเที่ยว ชอบเข้ามาก่อเหตุอนาจารกับเด็กและเยาวชนเป็นพวกpedophilesคือพวกสมรรถณทางเพศอ่อนตัวไม่ทำงาน มักจะทำอนาจารต่อเด็กชายเป็นส่วนใหญ่ซึงครูจาได้ยกตัวอย่างไว้
หลายคดีว่าเช่น นายอลัน ชาร์เลส มอร์สัน อายุ 75 ปี สัญชาติอังกฤษ ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศและถ่ายรูปเก็บไว้ ปัญหาปัจจุบันพบว่าเด็กมีการกระทำความผิดที่รุนแรงมากขึ้นเพราะว่า เมื่อเด็กกระทำความผิดโทษจะไม่หนักสามารถประกันตัวได้ง่าย ผู้ใหญ่จึงใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการทำความผิด เด็กในจังหวัดชลบุรีกระทำความผิดมากเป็นอันดับ1ของประทศรองลงมาคือ นครราชศรีมา

ปัญหาหลักๆที่เกิดขึ้นที่เมืองพัทยา
-ปัญหาเด็กเร่ร่อนที่พัทยา ไม่มีที่อยู่อาศัยต้องอาศัยอยุ่ตามบาร์ร้างมั่วสุ่ม เป็นเด็กท่ออยู่ตามท่อพบมากในเมืองพัทยา
-พ่อแม่เป็นหนี้แต่ขายลูกเพื่อใช้หนี้
-หญิงไทยที่มีลูกติดจะโดนชาวต่างชาติหลอก ส่วนมากเป็นพวกpedophiles หลอกแม่เพื่อทำอนาจารลูกเด็กพวกนี้ส่วนใหญ่จะไม่ถือสาเพราะคิดว่าเป็นผู้มีพระคุณ
-ชาวต่างชาติที่มีความผิดปกติทางจิตจะชอบหลอกเด็กผู้ชายมาข่มขืนทำอนาจาร

หน้าที่ของสถานที่ที่คุ้มครองเด็ก
-จะปลูกบ้านให้เด็กอยู่ ตอนนี้ทำเสร็จไปแล้ว3หลังจากความร่วมมือของท่านทูตจากประเทศต่างๆ
-ปลูกฝังให้เด็กอยู่ได้ด้วยตนเอง เน้นการพัฒนาคุณภาพด้านชีวิต เพื่อจะได้ออกไปใช้ชีวิตข้างได้อย่างคนปกติทั่วไป
-ให้การศึกษา กับเด็ก
เมื่อพบเจอเหตุการณ์ก้สามารถช่วยเป็นหูเป็นตาได้ โดยโทรแจ้งข่าวสารไม่ว่าจะเป็นที่ใด
>> ศูนย์คุ้มครองเด็ก 038-248037 สำนักงาน
ครูจา 081-4111750, 0819499349


ตัวอย่างปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กแยวชน



น้องเพลงอยุ่กับแม่แท้ๆชื่อ นางทิพยลดา บุญลิ้ม อายุ 29 ปี
เป็นพนักงานโรงแรมออกราส และอยู่กับพ่อเลี้ยงชื่อ นายวิทยา พิทักษ์กร เป็นช่างของโรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา
โดยน้องเพลงมีพี่สาวที่พ่อเดียวกัน 1 คน และมีน้องสาวที่พึ่งเกิดคนละพ่อ 1 คน
ส่วนตัวนายวิทยาพ่อเลี้ยงนั้นเป็นคนขี้โมโห เวลาน้องเพลงทำผิดจะลงโทษด้วยการตีอย่างรุนแรงหลายครั้ง
ที่มา
http://www.csip.org/csip/autopage/show_page.php?h=119&s_id=120&d_id=120



???!!
อยากทราบว่า>> ปัญหาการขายบริการถ้าผู้ขายยินยอมที่จะทำมันผิดไหม และระหว่างคนทีไปยืนขายตามที่ต่างๆและที่ทำอยู่ตามอาบ อบ นวด มันเหมือนหรือต่างกันหรือป่าว (อันนี้ส่วนตัวอยากทราบว่ามีใครหรือหน่วยงานไหนรู้หรือไม่ว่าบริเวรหลัง ร.5 บริเวรหน้าศาลในเมืองชลบุรีมีการขายบริการตอนดึกๆทุกวัน ไม่มีใครแก้ไขปัญหาได้เลยเหรอคร๊ะ??)

01 กันยายน 2552

อ่างศิลา is" ..??




อ่างศิลาเป็นหมู่บ้านชาวประมงริมทะเล( ตามบันทึกการประพาสของรัชกาลที่5 วันที่9มกราคม 2419 )เดิมเรียกกันว่าอ่างหิน อ่างศิลามีชื่อเสียงมากในการทำอุตสาหกรรมครกหินและการสกัดหินเป็นรูปต่าง ๆ ตามความต้องการของตลาด ว่ากันว่าหินแกรนิตบริเวณบ้านอ่างศิลามีคุณภาพดี แม้ในวันนี้อ่างศิลาจะไม่มีหินแกรนิตซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับทำครกแล้ว แต่อุตสาหกรรมขนาดย่อมเหล่านี้ก็ยังมีให้เห็นได้ทั่วไปในเขตอ่างศิลา เพราะชาวบ้านสั่งซื้อหินจากแหล่งอื่นมาสกัดขายจะเห็นเป็นแนวยาวตามสองข้างทางร้านค้าต่างๆเป็นเหมือนสัญลักษณ์บอกเขตแดนของการก้าวสู่อ่างศิลาแล้ว
แถวๆ นั้นจะมีร้านค้าของฝากด้วย มีทั้งอาหารทะเลแห้ง ขนมหม้อแกง ข้าวหลาม และกล่องโฟมสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากซื้อกุ้ง หอย ปู ปลา กลับไปทำกินเองที่บ้าน ที่จอดรถสะดวกสบาย อาจมีรถเยอะในช่วงเทศกาลแต่ก็สามารถจอดริมถนนได้
เทศบาลตำบลอ่างศิลามีตึกขาวและตึกแดงที่อยู่คู่กับชาวบ้านแทบนี้มาเป็นเวลานานแล้วเริ่มสร้างตั่งแต่รัชกาลที่4ตึกแดงเป็นเสมือนราชินี ส่วนตึกแดงเป็นของพระเจ้าอยู่หัว( ได้บูรณะสมัยรัชกาลที5โดยพระศรีพัชรินทราบรมราชินีพระมเหสี)
ตึกขาวเป็นสถานที่พักผ่อน ส่วนตึกแดงเป็นเสมือนที่พักฟื้นผู้ป่วย ในหลวงเคยเสด็จประพาสเมื่อวันที่25 ก.พ 2547ข้างๆมีสะพานปลาสร้างเมื่อสมัยรัชกาลที่4เพราะเมื่อก่อนเวลาน้ำลดเข้าถึงยากเลยต้องสร้างสะพานยื่นออกปัย รัชกาลที่3เสด็จมาที่นี้แต่ไม่บ่อยเท่าไหร่อ่างศิลานับเป็นที่ต่างอากาศแล่งแรกๆของเมืองไทยก็ว่าได้
วัดอ่างศิลาเป็นวดู่บ้านค่เมืองอ่างศิลามานับ300ปีแล้วแต่น้อยนหนักที่เยไปเยี่ยมชมส่วนมากนักท่องเที่ยวไม่ค่อยให้ความสนใจเพราะไม่ทราบประวัติความเป็นมาและไม่มีแรงดึงดุด ไม่มีการประกาสให้คนทราบปัจจุบันวัดอ่างศิลาได้รับย่กย่องเป็นโบราณสถานที่สำยแห่งหนึ่งไปแล้วโดยกรม ศิลปากร ในปี2539
ตลาดเก่าอ่างศิลา133ปีเป็นโครงการเพื่อกะตุ้นเศรษกิจในตลาดอ่างศิลาซึ่งเศษกิจกำลังซบเซาด้วยหลายสาเหตู เหตุผลหนึ่งก็คือการมีร้านค้าสะดวกห้างสรรพสินค้าใกล้ย่านนั้นเกิดขึ้นมากมาย ทำให้รายได้ของชาวบ้านน้อยลง ทางเทศบาลจึงได้ริเริ่มโครงการขึ้นมา ตลาเริ่มตั่งแต่บริเวรณครกหินใหญ่จนถึงบริเวณรตึกแดง-ขาว มีชาวบ้านนำสิ้นค้าออกมาจัดจำหน่ายมีทั่งของกินของที่ละลึกของใช้เก่าต่างๆที่หายากมากมายหลากหลายชนิด มีของทะเลทั่งสดและแห้ง มีขนมโบราณที่หากินได้ยาก มีของฝากที่ละลึกเป็นตัวแทนจากการมาเยื่อนอ่างศิลามากมายเช่น โปสเตอร์ กระเป๋าผ้า
ผู้คนก็จะแวะเวียนมาตลอดทั่งวันทั่งขาจรและขาประจำ เดินสบายๆแต่อากาศร้อนนิดหนึ่ง ทาจะให้ดีควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมในการต่อต้านแสงแดด วึ่งประมาณปลายปีก็จะมีการสรุปผลความสำเร็จของโครงการนี้ อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็ช่วยให้ชาวบ้านต่อชีวิตต่อไปได้ มากเลยที่เดียว